ลดความยุ่งยากในการใช้คลาวด์ พูดคุยกับเจ้าหน้าที่

cloud 2025 security vs on premise
Home ความปลอดภัยบน Cloud ดีกว่า On-premise จริงหรือ?

ความปลอดภัยบน Cloud ดีกว่า On-premise จริงหรือ?

ความปลอดภัยบน Cloud เป็นข้อโต้แย้งใหญ่ในโลก IT เมื่อเทียบกับการใช้ระบบ On‑premise หลายคนเชื่อว่าการเก็บข้อมูลและระบบบนเครื่องในองค์กร (On‑premise) ย่อมปลอดภัยกว่าที่ใด แต่ข้อเท็จจริงกลับซับซ้อนกว่านั้นมาก ทั้ง Cloud และ On‑premise มีข้อดีและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน บทความนี้จะช่วยทำความเข้าใจอย่างเป็นระบบว่าแต่ละแนวทางเหมาะกับใคร และวิธีป้องกันที่จะทำให้ระบบของคุณปลอดภัยที่สุด

Cloud Security vs On‑premise มองให้ครบทุกมุม

Cloud Security vs On premise

1. การเข้าถึงและควบคุมข้อมูล

  • On‑premise มีการควบคุมด้วยตัวเองทั้งหมด ทั้ง hardware, network, physical access ซึ่งเหมาะกับองค์กรที่มีนโยบายเข้มงวด
  • Cloud ผู้ให้บริการจะดูแล infrastructure ในฐานะ Shared Service แต่ธุรกิจยังคงควบคุมด้าน Application และ Data แบบเต็มตัว พร้อมระบบเข้าถึงอย่างละเอียด (IAM, RBAC)

2. การป้องกันภัยคุกคาม

  • On‑premise ต้องติดตั้งและดูแล Firewall, IDS/IPS และระบบ Anti-malware เอง
  • Cloud มี Security layers พร้อมตั้งแต่ระบบเครือข่าย (WAF, DDoS Protection) ระดับ Physical และ Virtual Network โดยผู้ให้บริการระดับองค์กร เช่น ISO 27001, SOC 2

3. การเข้ารหัสข้อมูล

  • On-premise ขึ้นอยู่กับองค์กรว่าจะใช้ HTTPS, การเข้ารหัสดิสก์เอง หรือไม่
  • Cloud มีตัวเลือก Encryption แบบชัดเจน ทั้งที่พัก (At-rest) และขณะส่ง (In-transit) พร้อมระบบจัดการกุญแจผ่านบริการ KMS

4. การอัปเดต และแพตช์

  • On-premise อัปเดตซอฟท์แวร์เอง ต้องวางแผนให้ดี
  • Cloud ผู้ให้บริการดูแล infrastructure และบางรายมีระบบอัปเดตอัตโนมัติ และมี SLA ด้านความปลอดภัย

5. ความพร้อมใช้งานและการกู้คืนข้อมูล

  • On-premise ต้องสำรองเอง ลงทุนโครงสร้างและทีม
  • Cloud มักมีระบบ Replica, Backup, Multi-AZ และ DR เตรียมพร้อม ทำให้กู้คืนได้เมื่อเกิดเหตุการณ์

จุดแข็งของความปลอดภัยบน Cloud

Cloud Security
  1. ระบบ Security Layers แบบครบระดับ มีตั้งแต่ Network, Compute, Storage และการเชื่อมต่อ ทำให้ป้องกันภัยได้ครบถ้วนกว่า
  2. Compliance & Certification Cloud Provider ระดับ Enterprise ผ่านมาตรฐาน ISO หรือ SOC ทำให้ธุรกิจเลี่ยงค่าใช้จ่ายและเวลาสำหรับ Audit เองได้
  3. การอัปเดตสม่ำเสมอ ระบบแพตช์หรืออัปเกรดส่วน infrastructure ไม่ต้องรอทีมองค์กร ทำให้ช่องโหว่ถูกอุดไว
  4. Elastic Security & Auto Scaling เมื่อระบบถูกโจมตีหรือพบภัยคุกคาม ระบบสามารถขยายป้องกันได้โดยอัตโนมัติ (เช่น WAF, DDoS)
  5. Multi-region redundancy ถ้าดีไซต์เจอร์เซิร์ฟเวอร์ล่ม ระบบจะย้ายไปทำงานที่ Region อื่น ไม่กระทบผู้ใช้

เมื่อความปลอดภัยบน On‑premise ยังมีข้อได้เปรียบ

  • เหมาะกับองค์กรที่ต้องการ ควบคุมฮาร์ดแวร์ของตัวเอง ตามนโยบายหรือข้อจำกัด
  • มีความเป็นส่วนตัวสูงในระดับ physical access
  • มีทีมดูแลแบบ in-house และสามารถจัดการความเสี่ยงที่เจาะจงภายในองค์กร
  • ใช้ได้ดีกับระบบ legacy หรือระบบที่มี integration กับ hardware ภายในองค์กร

ทำอย่างไรให้ “Security Best Practices” สำหรับแต่ละแบบ?

สำหรับ Cloud

  • เปิดใช้ HTTPS, Firewall Rule, IAM, RBAC อย่างเคร่งครัด
  • ใช้ KMS สำหรับจัดการ Encryption keys
  • เก็บ Audit Logs, Monitor Event, Alert แบบอัตโนมัติ
  • สำรองข้อมูลทุกวัน มี DR Test สม่ำเสมอ
  • เลือกระดับ SLA และ Region ที่ตรงกับ Compliance เช่น PDPA หรือ GDPR

สำหรับ On‑premise

  • ติดตั้ง Firewall, IPS, IDS, Anti-malware
  • วางแผนอัปเดตและแพตช์ระบบสม่ำเสมอ
  • จัดทำ Backup/DR พร้อม Simulation Test
  • จำกัดการเข้าถึงโดยใช้ระบบ Badge หรือ ACL
  • บันทึก Audit Logs จาก OS, Network และแอพพลิเคชัน

สรุป

ความปลอดภัยบน Cloud มีจุดแข็งหลายด้านที่ On-premise ยังเลียนแบบได้ยาก ทั้งระบบมัลติเลเยอร์, การจัดการ Certificate/Security แบบมืออาชีพ, ความเสถียร และความพร้อมด้าน Compliance พร้อมลดภาระดูแลเอง

แต่ On-premise ยังคงเหนือเรื่องความเป็นส่วนตัวระดับ Physical และความสามารถในการควบคุม Full-stack โดยทีมในองค์กร

ทางเลือกที่ใช่ อยู่ที่ความต้องการธุรกิจจริง เช่น

  • ธุรกิจที่ต้องได้รับ SLA สูงและมีข้อมูลสำคัญแต่ไม่ลับมาก → Cloud
  • ธุรกิจที่มีระบบเครื่องมือเฉพาะและข้อจำกัดเครือข่าย/ฮาร์ดแวร์ → On-premise
หากสนใจที่จะย้ายระบบขึ้น Cloud หรือใช้งานรูปแบบใด สามารถติดต่อเราได้เลยที่นี่ THAI DATA CLOUD มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา และแนะนำ Solutions ที่ถูกต้อง และตรงตามความต้องการแน่นอน!

สอบถามข้อมูลบริการ

Hybrid Cloud Enterprise Downtime 0%
ไม่ล่มแม้แต่วินาทีเดียว

ต่อเนื่องเป็นเวลา 6 ปี ตั้งแต่ 2019 - ปัจจุบัน

เราให้บริการ Enterprise Cloud ในราคาถูกและคุ้มค่า เพื่อสนับสนุนให้ทุกธุรกิจของคนไทยได้เข้าถึง Cloud ระดับโลก
คุณภาพสูงทำงานได้ต่อเนื่องตลอดเวลา ไม่มีสะดุด พร้อมสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจคุณอย่างเต็มที่!