ลดความยุ่งยากในการใช้คลาวด์ พูดคุยกับเจ้าหน้าที่

co location server Thailand
Home Co-location ทางเลือกที่ช่วยให้ธุรกิจมั่นใจในระบบ IT

Co-location ทางเลือกที่ช่วยให้ธุรกิจมั่นใจในระบบ IT

ทุกวันนี้ธุรกิจแทบทุกประเภทต่างพึ่งพาระบบออนไลน์ ตั้งแต่ร้านค้า E-Commerce ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ ERP และ Database แบบ 24/7 การมีเซิร์ฟเวอร์ที่เสถียรและปลอดภัยจึงไม่ใช่ “ตัวเลือก” แต่เป็น “ความจำเป็น”

หลายองค์กรอาจเริ่มต้นด้วยการตั้ง Server ในออฟฟิศ แต่เมื่อธุรกิจโตขึ้น ปัญหาก็เริ่มชัดเจน เช่น ไฟดับ อินเทอร์เน็ตล่ม หรืออุณหภูมิห้องไม่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ระบบล่มได้ง่าย ทางออกที่ธุรกิจจำนวนมากเลือกใช้ก็คือ Co-location

Co-location คืออะไร? และทำไมธุรกิจถึงเลือกใช้

Co location

Co location คือบริการที่เปิดให้คุณนำเครื่อง Server ของตัวเองไปวางใน Data Center ของผู้ให้บริการ ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมรองรับ ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบไฟฟ้าสำรองหลายชั้น ทั้ง UPS และ Generator
  • เครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหลายเส้นทาง (Multi-ISP)
  • ระบบควบคุมสภาพแวดล้อม ที่รักษาอุณหภูมิและความชื้นเหมาะสมตลอด 24 ชั่วโมง
  • การรักษาความปลอดภัยระดับสูง เช่น CCTV, Biometric Access และทีมงาน NOC ดูแล 24/7

พูดง่าย ๆ ก็คือ แทนที่คุณจะตั้งเครื่องไว้ในออฟฟิศที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง Co location ช่วยให้เซิร์ฟเวอร์ของคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อ “ความเสถียรและความปลอดภัย”

ปัญหาที่มักเจอเมื่อดูแลเซิร์ฟเวอร์ในออฟฟิศ

  • ไฟดับหรือไฟตก ทำให้ระบบหยุดทำงาน
  • อินเทอร์เน็ตไม่เสถียร ส่งผลต่อการเข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
  • เครื่องร้อนเกินไปเพราะไม่มีระบบแอร์ควบคุมเฉพาะ
  • ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยเพียงพอ เสี่ยงต่อการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ถ้าเป็นเว็บเล็ก ๆ แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่มีลูกค้าเข้ามาใช้งานตลอดเวลา Downtime เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็หมายถึงความเสียหายทั้งรายได้และชื่อเสียง

ทำไม Co Location ถึงดีกว่าการวางเครื่องเอง

  1. เสถียรภาพสูง (High Availability) Data Center มักการันตี Uptime 99.9–99.99% ซึ่งยากที่จะทำได้ถ้าคุณดูแลเองในออฟฟิศ
  2. ปลอดภัยกว่า (Security) มีการป้องกันหลายชั้นทั้งด้านกายภาพและระบบเครือข่าย
  3. อินเทอร์เน็ตเร็ว และเสถียร ด้วยการเชื่อมต่อจากหลายผู้ให้บริการ (Multi-Carrier)
  4. ขยายระบบได้ง่าย (Scalability) เพิ่มหรือลดจำนวนเครื่อง/แร็กได้ตามการเติบโตของธุรกิจ
  5. ทีมงานผู้เชี่ยวชาญดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ลดภาระการดูแลด้วยตนเอง

ตัวอย่างธุรกิจที่เหมาะกับการใช้ Co Location

  • E-Commerce: ต้องการระบบที่ออนไลน์ตลอดเวลา รับคำสั่งซื้อโดยไม่สะดุด
  • สถาบันการเงิน: ข้อมูลธุรกรรมต้องการความปลอดภัยและมาตรฐานสูง
  • บริษัทซอฟต์แวร์และเกม: ต้องการเซิร์ฟเวอร์ที่มี Latency ต่ำและรองรับผู้ใช้จำนวนมาก
  • องค์กรใหญ่: ใช้งาน ERP, CRM หรือระบบฐานข้อมูลที่ต้อง Always-on

เลือก Co Location หรือ Cloud แบบไหนเหมาะกว่ากัน?

Co location

สรุป

  • ถ้าคุณมีเครื่อง Server อยู่แล้ว และต้องการโครงสร้างที่มั่นคง เลือก Co Location
  • ถ้าคุณอยากได้ระบบที่ยืดหยุ่น ไม่ต้องลงทุนเครื่องเอง เลือก Cloud

ธุรกิจของคุณพร้อมสำหรับ Co Location แล้วหรือยัง?

ลองถามตัวเอง

– เว็บไซต์หรือระบบของคุณต้องออนไลน์ตลอดเวลาใช่หรือไม่?
– คุณมีเครื่อง Server อยู่แล้วแต่ยังห่วงเรื่องความเสถียร?
– คุณต้องการลดความเสี่ยง Downtime และเพิ่มความปลอดภัย?

ถ้าใช่เกิน 2 ข้อขึ้นไป Co Location อาจเป็นคำตอบที่เหมาะกับธุรกิจคุณที่สุด

สรุป

ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันสูง ความเสถียรและความปลอดภัยของระบบ IT คือสิ่งที่ธุรกิจไม่อาจมองข้าม Co-location ไม่ได้เป็นแค่บริการฝากเซิร์ฟเวอร์ แต่คือ “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมั่นใจ

เลือก Cloud จาก THAI DATA CLOUD เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์ของคุณทำงานเต็มประสิทธิภาพในดาต้าเซ็นเตอร์มาตรฐาน พร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

สอบถามข้อมูลบริการ

Hybrid Cloud Enterprise Downtime 0%
ไม่ล่มแม้แต่วินาทีเดียว

ต่อเนื่องเป็นเวลา 6 ปี ตั้งแต่ 2019 - ปัจจุบัน

เราให้บริการ Enterprise Cloud ในราคาถูกและคุ้มค่า เพื่อสนับสนุนให้ทุกธุรกิจของคนไทยได้เข้าถึง Cloud ระดับโลก
คุณภาพสูงทำงานได้ต่อเนื่องตลอดเวลา ไม่มีสะดุด พร้อมสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจคุณอย่างเต็มที่!